เวลาเตือนใครที่ใช้หลอดพลาสติก แก้วพลาสติกใช้แล้วทิ้ง แล้วมักได้รับคำตอบกลับว่า “แค่อันเดียวเอง” แต่คุณๆ รู้กันหรือไม่ว่า ในวันๆ หนึ่งคุณใช้หลอดใช้แก้วกันวันละเท่าไหร่ หลอดหนึ่งอัน ใช้เวลาย่อยสลายร่วม 250 ปี คุณต้องตายๆ แล้วเกิดอีกกี่รอบกว่าหลอด “แค่อันเดียว” ที่คุณใช้แค่ไม่กี่สิบนาทีจะย่อยสลายหมด
ปัจจุบัน คำพูดที่ว่า “ขยะล้นโลก” ไม่ห่างไกลความเป็นจริงนัก ขยะเหล่านี้ที่ลอยเต็มท้องทะเลและที่อยู่บนกองขยะบนพื้นดิน (Landfill) จะอยู่ไปอีกนานแสนนาน แน่นอนว่าเราไม่อาจหย่าขาดจากการใช้พลาสติกได้ถาวร แต่อย่าลืมว่าเราลดปริมาณการใช้ หรือนำพลาสติกเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่จะเกิดเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน แล้วเราควรทำอย่างไร…
- หลีกเลี่ยงและปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก, หลอด, ภาชนะใส่อาหารพลาสติกรวมถึงโฟม หลีกเลี่ยงการใช้ขวดพลาสติกมาใช้แก้วแทน บรรจุภัณฑ์ประเภทแก้วนอกจากจะดีต่อสิ่งแวดล้อมเพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ยังดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย เพราะขวดแก้วจะไม่ทำปฏิกิริยาต่อสิ่งที่บรรจุในนั้น ซึ่งหมายความว่ามันดีต่อสุขภาพของเรา และถือว่าเป็นบรรจุภัณฑ์ของยุคภาวะโลกร้อนเลยทีเดียว
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ด้วยการพกพาของใช้ซ้ำได้ เช่น พกขวดน้ำ กล่องข้าว ถุงผ้า หลอดสแตนเลส หลอดกระดาษ ช้อนส้อมไม้ไผ่ การพกพาเพียงอย่างสองอย่าง สามารถลดจำนวนพลาสติกที่เราใช้ในแต่ละวันได้ทุกๆ วัน อย่างน้อยให้ได้ “ลด” เพราะเรายัง “เลิก” ไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
- แยกขยะตั้งแต่ที่บ้าน เพราะการแยกขยะให้ถูกต้อง จะทำให้คนเก็บขยะนำขยะไปขายเพื่อรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น หากไม่รู้เรื่องการแยกขยะ อย่างน้อยให้แยกขยะแห้งทุกอย่างที่เป็นโลหะ แก้ว กระดาษ และพลาสติกออกจากขยะเปียก เพราะแม้แต่ในประเทศมั่งคั่ง อัตราการรีไซเคิลก็ยังจัดว่าต่ำ ทั่วโลกมีพลาสติกเพียงร้อยละ 18 เท่านั้นที่ถูกนำมารีไซเคิล ในยุโรปสัดส่วนการรีไซเคิลมีอยู่ร้อยละ 30 จีนร้อยละ 25 และอเมริการ้อยละ 9 เท่านั้น การรีไซเคิลจะทำได้มากกว่านี้ ถ้าทุกคนรู้จักที่จะแยกขยะ ฉะนั้นการแยกขยะให้เป็นประเภทและทิ้งให้ถูกวิธีนั้นก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถลดภาระโลกร้อนได้
- การซื้อของคราวละมากๆ หรือเลือกซื้อขนาดใหญ่ขึ้น สามารถช่วยลดพลาสติกจากการบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก ตัวอย่างเช่น แทนที่จะซื้อแชมพูขนาดปกติก็เปลี่ยนเป็นซื้อขนาดใหญ่ใช้ได้นานขึ้น คุ้มค่ากว่าแถมลดขยะได้อีก
- พยายามซ่อมแซมและใช้ของเดิม ขยะจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็เป็นปัญหาโลกร้อนในทุกวันนี้ แทนที่จะซื้อเครื่องใหม่ในทุกครั้งที่เครื่องมีปัญหา เราน่าจะอัพเกรดเปลี่ยนชิ้นส่วนบางส่วนจากชิ้นเก่า ซึ่งอาจสามารถยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเดิม และช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อีกด้วย และในส่วนของผู้ผลิตผู้ขาย ควรจะมีส่วนรับผิดชอบต่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่หมดสภาพ ด้วยการรับซื้อกลับไป และหาวิธีกำจัดหรือรีไซเคิลขยะอันตรายเหล่านั้นอย่างถูกวิธี
ขยะกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ และเป็นต้นตอสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษด้านอื่นๆ ตามมา ส่งผลต่อสุขภาพของเราทุกคน จากการคาดการณ์ของธนาคารโลก ระบุว่าภายในปี 2568 จะมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว หรือปริมาณขยะในแต่ละวัน เท่ากับการนำรถขนขยะมาเรียงต่อกันเป็นระยะ 5,000 กม.
มาเถอะนะ มาช่วยกัน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะลงมือทำกัน ลบทัศนคติแย่ๆ ที่คิดว่า “ใช้แค่อันเดียว” ออกไป จะได้เห็นโลกใหม่ที่น่าอยู่ขึ้นมากกว่าเดิม
ข้อมูลอ้างอิง:
lifehack.org
ecowatch.com
nationalchange.org
greennews.agency
Wowwww!!!